top of page
Search

KPI ที่ใช้วัดผลงานทีมขายและทีม Telesales

ree

ในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน การบริหารทีมขายและทีม Telesales ให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมี “KPI ที่ชัดเจนและวัดผลได้จริง

KPI (Key Performance Indicator) คือ ตัวชี้วัดผลงานที่ช่วยให้เรารู้ว่า

ทีมขายของเรากำลัง “เดินถูกทาง” หรือยังต้อง “ปรับกลยุทธ์”

บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก KPI สำคัญที่ใช้วัดผลงานทีมขายและทีม Telesales พร้อมแนวทางนำไปใช้จริงในองค์กร

🔹 KPI ทีมขายคืออะไร?

KPI ทีมขาย (Sales KPI) คือ ตัวชี้วัดผลงานของฝ่ายขายที่แสดงถึงความสำเร็จในการ “หาลูกค้า – ปิดการขาย – สร้างรายได้”

เป้าหมายของ KPI ทีมขายไม่ใช่แค่ยอดขายรวม แต่รวมถึง คุณภาพของโอกาสขาย (Lead) และ ประสิทธิภาพของกระบวนการขาย (Sales Process) ด้วย

🔸 ตัวอย่าง KPI ที่ใช้วัดผลงาน “ทีมขาย”

💰 1. ยอดขายรวม (Total Sales Revenue)

ตัวชี้วัดหลักสุดของทีมขาย วัดรายได้จากการปิดการขายทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด

✅ เป้าหมาย: ยอดขายต่อเดือน / ไตรมาส / ปี

🧭 2. Conversion Rate (อัตราการปิดการขาย)

วัดสัดส่วนของ “จำนวนลูกค้าที่ติดต่อ” เทียบกับ “จำนวนดีลที่ปิดได้จริง”

✅ สูตร: (จำนวนดีลที่ปิดได้ ÷ จำนวนโอกาสทั้งหมด) × 100

📞 3. จำนวนลูกค้าใหม่ (New Customers)

วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาในแต่ละเดือน เพื่อดูการเติบโตของฐานลูกค้า

🔁 4. ยอดขายซ้ำ (Repeat Sales / Retention)

วัดความสามารถในการรักษาลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำ

⏳ 5. ระยะเวลาในการปิดการขาย (Sales Cycle Length)

ดูว่าทีมขายใช้เวลานานเท่าไรในการปิดดีลหนึ่ง ๆยิ่งสั้น แปลว่าทีมขายมีประสิทธิภาพสูง

🔸 ตัวอย่าง KPI ที่ใช้วัดผลงาน “ทีม Telesales”

ทีม Telesales คือด่านหน้าของการสร้างโอกาสขาย (Lead Generation)KPI ของทีมนี้จึงต้องเน้น ปริมาณและคุณภาพของการติดต่อ

☎️ 1. จำนวนสายโทรต่อวัน (Call Volume)

วัดจำนวนครั้งที่โทรหาลูกค้าในแต่ละวัน เพื่อดู Productivity ของทีม

✅ ตัวอย่างเป้าหมาย: 60–100 สายต่อวัน/คน

💬 2. อัตราการรับสาย (Call Connection Rate)

วัดจำนวนสายที่ลูกค้ารับเทียบกับจำนวนที่โทรทั้งหมด

ยิ่งสูง แปลว่าทีมเลือกกลุ่มเป้าหมายและเวลาการโทรได้ดี

🗓️ 3. จำนวนการนัดหมาย (Appointments Set)

วัดจำนวนครั้งที่ทีม Telesales สามารถนัดลูกค้าให้ทีมขายได้

ตัวชี้วัดสำคัญของ Lead คุณภาพ

💡 4. Conversion Rate จากโทร → ดีล

ดูว่าสายที่โทรไปกี่เปอร์เซ็นต์นำไปสู่ยอดขายจริง

ใช้ร่วมกับ CRM เพื่อวัดผลต่อเนื่อง

📈 5. รายได้เฉลี่ยต่อสาย (Revenue per Call)

วัดประสิทธิภาพโดยดูว่าการโทรแต่ละครั้งสร้างรายได้เฉลี่ยเท่าไร

⚙️ ตัวชี้วัดเสริม (Bonus KPI) ที่ควรมี

สำหรับทีมขายยุคใหม่ อาจเพิ่มตัวชี้วัดเหล่านี้เพื่อดู “คุณภาพการขาย” มากขึ้น

  • Customer Satisfaction Score (CSAT) → ความพึงพอใจของลูกค้า

  • Lead Response Time → เวลาที่ทีมตอบกลับลูกค้าใหม่

  • Upsell / Cross-sell Rate → อัตราการขายเพิ่มเติมให้ลูกค้าเดิม

🧮 วิธีตั้ง KPI ทีมขายให้ได้ผลจริง

  1. เริ่มจากเป้าหมายธุรกิจใหญ่ (KGI) เช่น รายได้รวมปีละ 10 ล้านบาท

  2. แตก KPI ลงมาที่แต่ละทีม → ทีมขาย, ทีมโทร, ทีมติดตามลูกค้า

  3. กำหนดเป้าหมายรายเดือนที่วัดได้ชัดเจน

  4. ใช้ระบบติดตามผล (CRM หรือ Dashboard) เพื่อดูความคืบหน้าแบบเรียลไทม์

💡 ตัวอย่างการตั้ง KPI รายเดือน:

KPI

เป้าหมาย

วัดผลโดย

ยอดขายรวม

1,000,000 บาท

ระบบ CRM

โทรหาลูกค้าใหม่

1,200 สาย/เดือน

Call Log

นัดลูกค้าใหม่

60 นัด

Google Sheet

Conversion Rate

≥15%

รายงานรายสัปดาห์

🔁 สรุป: KPI คือเครื่องมือพัฒนาทีม ไม่ใช่เครื่องมือจับผิด

การตั้ง KPI ที่ดีไม่ควรใช้เพื่อ “กดดันทีมขาย”แต่ควรใช้เป็น “เครื่องมือวิเคราะห์และพัฒนา” เพื่อให้ทีมรู้ว่าอะไรได้ผล และอะไรต้องปรับปรุง

เพราะสุดท้ายแล้ว “KPI ที่ดี” ไม่ได้วัดแค่ยอดขาย แต่ต้องวัด ประสิทธิภาพ + ความพึงพอใจของลูกค้า + การเติบโตของทีม ไปพร้อมกัน

📘 อย่าลืม! แจกฟรี E-Book “เทคนิคการขายยุคใหม่ 2025”


✅ เคล็ดลับที่นักขายยุคใหม่ต้องรู้

✅ เข้าใจลูกค้าไว ปิดดีลได้จริง

✅ ใช้ได้ทั้งมือใหม่และมือโปร


👉 กรอกข้อมูล ที่นี่

 และกด Add LINE


📥 รับ E-Book ฟรีทันที!


 
 
bottom of page